จากปี 2549 ที่เราไม่ทราบอะไรเลย ไม่รู้ใครเป็นใคร จนมาถึงวันนี้ ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร ได้รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง คนแต่ละกลุ่ม รู้ว่าเหตุการณ์ดำเนินมาถึงทุกวันนี้เพราะอะไร ท้ายที่สุดคน ชนชั้น ไหนได้ประโยชน์ คน ชนชั้น ไหนยังกุมอำนาจไว้ได้ คาดเดาไม่ยากหรอกครับ ว่าอีกไม่นาน .....เพี่ยงแต่.....จะจบอย่างไรนี่สิ.....
Sunday, June 14, 2009
ThailandMirror Cyber + 6
งานเสวนา ThailandMirror Cyber + 6
"จากหลังคีย์บอร์ดถึงหน้ารัฐสภา "
Thailandmirror.com จัดงานเสวนาสุดยอดผู้นำ Cyber + 6
หัวข้อ "จากหลังคีย์บอร์ดถึงหน้ารัฐสภา การบ้าน หรือการเมือง? "
เสาร์ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552
เวลา 16.00 น เป็นต้นไป [ส่วนของงานเสวนาเริ่ม18.00-21.00 น.]
ลักษณะงาน No action Talk only
แลกเปลี่ยนทรรศนะ และเสวนาแบบไม่เสียค่าเนต
การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม จากโลกไซเบอร์สู่ภาคประชาชน
วิพากษ์วัฒนธรรมองค์กรไซเบอร์ ความน่าเชื่อถือของข้อมูล
ในงานมีอาหาร เครื่องดื่ม ให้บริการในแบบบุพเฟ่ต์ Cyber talk
(สำหรับเครื่องดื่ม Lกฮ โปรดนำมาลงทะเบียนเพื่อขยายผล )
รูปแบบงาน
เป็นการแลกเปลี่ยนความคิด ทัศนคติ โดยผู้ที่มาในงานสามารถเป็นผู้ร่วมเสวนาได้ทุกท่าน(ตามแต่เจตนารมณ์)
เพื่อให้เกิดองค์ความคิดเห็นอันหลากหลายขยายผลเป็นรูปธรรม
ร้านอาหารบ้านต้นซุง เลียบทางด่วน เอกมัย - รามอินทรา .. ห้องแสงจันทร์
บัตรราคา 499 บาท ( จำกัดจำนวน )
สำรองที่นั่ง และเป็นผู้ร่วมเสวนาติดต่อ
คุณที่ระลึก 0840-910-707
คุณพลรักษ์ 0800-735-735
เลขที่บัญชีจองบัตร
อนุสรณ์ พรหมจักร
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
สาขาย่อย มาบุญครอง
ออมทรัพย์ 172-208252-0
fax สลิปโอนเงินมาที่ 029313957
หรือ mail สลิปมาที่ iamnotchef@live.com
หมายเหตุ*จำกัดจำนวน และงดโฟนอิน
Friday, June 12, 2009
ประชาธิปไตยง่ายนิดเดียว โดยหมัดเหล็ก
ต้องขอแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียของ พี่น้องในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ตกเป็นเหยื่อสงคราม ไม่เฉพาะ
ประชาชน ผู้บริสุทธิ์เท่านั้น ทหารหาญที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน รวมทั้ง ประเทศไทย ด้วยที่ตกเป็น
เหยื่อ อย่างที่ผมเคยเกริ่นไปแล้วว่า ปัญหาไฟใต้ไม่ดับเพราะสาเหตุใด
การเมืองกับกองทัพ
ใครก็ตามที่แสวงหาผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเมืองหรืองบประมาณ หรือการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ต้อง
ไปแช่งชักหักกระดูกให้เมื่อยตุ้ม แต่ผลกรรมที่ทำเอาไว้ จะย้อนกลับมาเชือดคอตัวเอง จะด้วยวิธีไหนขอให้จับตา
สถานการณ์ภาคใต้ให้ดี
บ้านเราเลอะเทอะไปกันใหญ่ ที่ไร้มาตรฐานไม่มีกฎเกณฑ์กติกากันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะ ประชาธิปไตยอ่อนแอ จะไปโทษ
เรื่องของการศึกษา เศรษฐกิจหรือปัจจัยอื่นใดก็ตาม ถ้าประชาธิปไตยเข้มแข็งกว่านี้ก็คงจะไม่เกิดวงจรอุบาทว์ตามมา
หลอกหลอน เป็นตัวถ่วงความเจริญของประเทศ
คนดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินถนน
อย่างที่ผมจั่วหัวเอาไว้ ประชาธิปไตยง่ายนิดเดียว ไม่ต้องไปร่างกฎหมาย ตั้งกฎเหล็ก หรือปฏิรูปการเมืองให้วุ่นวาย
ตรงกันข้ามเพราะกฎเหล็ก เพราะกฎหมาย เพราะรัฐธรรมนูญหมกเม็ดสืบทอดอำนาจ
ทำลายหลักการของประชาธิปไตยจนย่อยยับ
มีอย่างที่ไหน บังคับให้คนไปเลือกตั้ง บังคับอย่างโน้นอย่างนี้ จนแทบจะไม่มีรูหายใจ แล้วมาบอกว่านี่แหละคือการ
ปฏิรูปการเมือง พัฒนาประชาธิปไตย
เห็นประชาชนโง่เป็นควาย
กฎกติกายิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมากเรื่องเท่านั้น แล้วก็นำไปสู่การบิดเบือนกฎเกณฑ์กติกา ใช้กติกาเป็นเครื่องมือชิง
อำนาจ ยกตัวอย่างที่เห็นกันใกล้ตัวกรณีพรรคภูมิใจไทยไปสัมมนาพรรคแจกอะไรกันที่ จ.สกลนคร ซึ่งจะมีการเลือก
ตั้งซ่อมในอีก 2 สัปดาห์นี้ หรือก่อนหน้านี้ก็ใช้อำนาจหน้าที่แจกกันอย่างเอิกเกริก
กกต.บอกว่าไม่เป็นไร ไม่เข้าข่ายความผิดเนื่องจากห่างจากเขตเลือกตั้งถึง 30 กิโลเมตร ก็ต้องย้อนไปที่กรณีของ
คุณยงยุทธ ติยะไพรัช โดนใบแดงข้อหาแจกเงินเหมือนกัน ข้อร้องเรียนเกิดขึ้นที่ จ.เชียงราย แต่ตามข้อกล่าวหาว่ามา
แจกเงินกันที่ กทม. ห่างจากเชียงรายเกือบ 1,000 กิโลเมตร
นี่แค่น้ำจิ้ม
เอาละ อย่างที่ผมบอกว่าประชาธิปไตยง่ายนิดเดียว ถ้าเรา ยึดหลักของประชาธิปไตยให้แม่น ประชาธิปไตยประชาชน
ต้องเป็นใหญ่ ไม่ใช่รัฐบาลเป็นใหญ่ ครม.เป็นใหญ่ กองทัพเป็นใหญ่ หรือข้าราชการเป็นใหญ่ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นคือ
ระบอบเผด็จการ จึงต้องสร้างค่านิยมคำว่าประชาธิปไตยกันใหม่
วันนี้ชาวบ้านไม่เห็นด้วยกับเรื่องรถเมล์เช่า ไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล ไปอย่างเจ้าของประเทศ ไปบอกให้รู้ว่า
ไม่เอา วันนี้ไปพันคนไม่ฟัง พรุ่งนี้ไปหมื่นคน วันมะรืนนี้ไปแสนคน ถามว่ารัฐบาลจะฟังไหม.
หมัดเหล็ก
Wednesday, June 10, 2009
นายกฯ 2 คน แต่มีวิธีการทำงานที่แตกต่าง
ทักษิณ วันแรกประชุมสภา เริ่มแผนงานตามนโยบาย
อภิสิทธิ์ กวาดหน้าสภาเป็นอันดับแรก
ทักษิณ ส่งกองทัพไปรับคนไทยที่กัมพูชา ตอนเกิดจราจล
อภิสิทธิ์ ส่งกองทัพไปปราบคนประท้วงที่ดินแดง
ทักษิณ กำหนดราคายางพาราเองร่วมกับ 3 ประเทศ
อภิสิทธิ์ รับจำนำยางพารา
ทักษิณ แก้ไข3จังหวัดภาคใต้ ด้วยการนอนในพื้นที่เพื่อรับรู้ปัญหาจากชาวบ้าน
อภิสิทธ์ ส่ง กอ.รมน. ไปปรับความเข้าใจกับชาวบ้านที่ภาคเหนือและอิสาน
ทักษิณ เชิญผู้นำทั่วโลกมาดูพิธีแห่เรือชลมาศ ในงานโอเปค
อภิสิทธิ์ พาผู้นำอาเชี่ยนทัวร์ด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่พัทยา
ทักษิณ ลงพื้นที่กินไก่ เพื่อรณรงค์ให้คนกินไก่ ตอนเกิดไข้หวัดนก
อภิสิทธ์ เชิญชวนให้คนกินผลไม้ ที่ช่อง 3
ทักษิณ ผูกจมูกไปรับคนที่ดอนเมือง ตอนเกิดไข้หวัดซาร์
อภิสิทธิ์ บอกวิธีป้องกันโรคไข้หวัด2009 ที่ช่อง 5
ทักษิณ บัญชาการเองที่ภาคใต้ ตอนเกิดภัยธรรมชาติ สึนามิ
อภิสิทธ์ แก้ไขภัยความแตกแยก ด้วยการปิดสื่อฯที่เป็นของคนเสื้อแดง ที่ช่อง 7
ทักษิณ ให้ความหวังกับพี่น้องชาวรากหญ้า ด้วยการลงพื้นที่
อภิสิทธ์ ให้ความหวังกับพี่น้องชนชั้นกลางและสูง ทางช่อง 9
ทักษิณ ขี่มอเตอร์ไซด์ไม่ต้องสวมหมวกกันน็อคพบประชาชน
อภิสิทธิ์ นั่งรถกันกระสุนพบประชาชน
นี่คือนายกฯที่เลวที่สุดกับนายกฯที่ดีที่สุดของประเทศไทย ไม่รู้คุณชอบแบบใหน
เห็นภาพเปรียบเทียบชัดเจน
ก่อนคุณทักษิณ ตั้งพรรค มี คณะทำงาน เก็บข้อมูล วิเคราะห็ ปัญหา เป็นระบบ
ก่อนจะไป ตรวจงานที่ใด จะมีทีมงาน หาข้อมูล มาให้ศึกษา อย่างละเอียด
พูดง่ายๆ คุณ ทักษิณ แค่ใช้คนเป็น สุดท้ายคนตัดสินคือท่าน
แน่นอน การทำงานจะให้ สมบูรณ์ เรียบร้อย เป็นไปไม่ได้ แต่ ส่วนใหญ่ ก็ได้ผล ที่ผิดพลาด มีสาเหตุใด ก็ ต้องแก้ไข
คนมืออาชีพ ก็ทำ กันอย่างนี้
หันมาทางคุณ อภิสิทธิ์
อยากเป็น นายก แต่ เคย มี วิธีการใดที่ชัดเจน เคยมีมือทำงาน ลงพื้นที่ไม๊
นอกจากอาศัย ราชการ
และ เคยไม๊ที่จะตัดสินใจ ทำงานด้วยตัวเอง
ต้อง
คอย ถาม ผู้ อยู่ เหนือ
ต้องถาม ทุกคนที่เป็นผู้มีอุปการคุณ
และต้อง อยู่ใต้ การบังคับของ เจ้าของฟาร์ม งูเห่า เนรวิน
การทำงานของ 2 นายก เปรีบยเหมือน ดอกเตอร์ กับ อนุบาล
Monday, June 08, 2009
24 ชั่วโมงของทักษิณ หลังรัฐประหาร อ่านสนุกครับ
เป็นบทความที่แปลขึ้นมาใหม่ อ่านสนุกและเข้าใจง่าย น่าอ่านมาก รวมมาให้โหลดกันครับ
บันทึกเหตุการณ์เกี่ยวกับการรัฐประหาร ๑๙ กันยา Thaksin's 24 Hours After the Coup:
24 ชั่วโมงของทักษิณ หลังรัฐประหาร
http://www.cmupark.com/chiangmaiuniversity/viewtopic.php?f=33&t=2750
www.sped.nrru.ac.th/ebook/Thaksin24hrsA.pdf
www.sped.nrru.ac.th/ebook/Thaksin24hrsB.pdf
http://www.esnips.com/doc/5766d16d-c70d-4c44-b81c-3cf59ed6ace8/หนังสือ-ทักษิณ-24-ชั่วโมง-หลังรัฐประหาร
http://www.scribd.com/doc/8801105/-24-
บันทึกเหตุการณ์เกี่ยวกับการรัฐประหาร ๑๙ กันยา Thaksin's 24 Hours After the Coup:
24 ชั่วโมงของทักษิณ หลังรัฐประหาร
http://www.cmupark.com/chiangmaiuniversity/viewtopic.php?f=33&t=2750
www.sped.nrru.ac.th/ebook/Thaksin24hrsA.pdf
www.sped.nrru.ac.th/ebook/Thaksin24hrsB.pdf
http://www.esnips.com/doc/5766d16d-c70d-4c44-b81c-3cf59ed6ace8/หนังสือ-ทักษิณ-24-ชั่วโมง-หลังรัฐประหาร
http://www.scribd.com/doc/8801105/-24-
สื่อรัฐบาล กับ มาร์ค ตีไข่ใส่ข่าว อดีตนายก ทักษิณ กับ ประเทศเยอรมัน
ไม่รู้ว่าจะแหกตา ประชาชนไปถึงไหน ดูข่าวช่อง TPBS , ช่อง11ทากม่วง
มีแต่ภาพ เก่าๆ อดีตนายก เดินลงบันไดเลื่อนประเทศไหนก็ไม่รู้ แต่เห็นนานแล้ว
เนื้อข่าวยังเติมไปอีก ชาวบ้านไม่รู้ก็คงเชื่อ การเสนอข่าว ใส่ไฟกลบกระแส
ค่านายหน้า ไม่เอาแบงค์ใหม่ ไม่รับเงินไทย กับ รถเมล์ 4,000 คัน
ถ้า ครม เห็นชอบไม่ว่า เช่า หรือ ซื้อ
กับ อีกความไม่เอาถ่าน ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ของรัฐบาล ทำหน้าหล่อ เก่งแต่พูด
แหล่งข่าว http://www.bangkokpost.com/news/politics/145397/thaksin-resided-in-germany
"จาตุรนต์"ปัดข่าว"ทักษิณ"เปลี่ยนชื่อใหม่"
7 มิย. 2552 14:53 น.
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และในฐานะ 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้ชื่อปลอมในการเดินทาง ว่า ตนเองไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และไม่ได้ติดตามเรื่องนี้ ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นเรื่องดังกล่าวจะเป็นการดิสเครดิตหรือไม่
ตนเองมองว่านายอภิสิทธิ์อยู่แต่กับการพูด วันทั้งวันมีแต่การพูดให้ดูดีเท่านั้น ใช้โฆษกส่วนตัวเกะกะระรานคนอื่น และตัวนายกฯเองก็ทำตามไปด้วย จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้นายอภิสิทธิ์มีแต่การพูดเพื่อลดความน่าเชื่อถือของคนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อย่างคนเสื้อแดงและคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล
โดยใช้เทคนิคการใช้คำพูดที่ดูดี พูดจนคนรู้สึกว่าความผิดไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลของท่าน ให้ประชาชนไม่รู้สึกโกรธหรือเบื่อหน่าย เรียกว่าใช้ศิลปะในการพูดเพื่อให้รัฐบาลนี้อยู่ต่อไปได้ ทั้งๆ ที่ท่านไม่สามารถทำอะไรได้
ซึ่งต้องยอมรับว่าท่านมีความสามารถในการพูด แต่ความสามารถในการแก้ไขปัญหาของประเทศไม่มี ซึ่งอีกไม่นานประชาชนจะได้รู้ว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เก่งอย่างที่พูด
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=385243&lang=T&cat=
ยุคของการบิดเบือนข่าวสาร จริงๆ รางวัลหนังสั้นเมืองคานส์ ถึง เยอรมันถอนวีซ่าทักษิน
ยุคของการบิดเบือนข่าวสาร จริงๆ รางวัลหนังสั้นเมืองคานส์ ถึง เยอรมันถอนวีซ่าทักษิน
อนาถใจจริงๆ กับ สื่อมวลชนยุคนี้
คิดว่าประชาชนโง่เง่า ดูแต่ TV อ่านแต่หนังสือพิมพ์ หรือไงครับ
ยุคนี้มันยุค internet แล้ว การสืบค้นข้อเท็จจริงมันไม่ได้ยากเลย
จากเรื่องน้องอุ้มเมืองคานส์
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7934961/A7934961.html
สื่อมั่วก็เอามาลงประโคมข่าว ว่าได้รางวัลหนังสั้นยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ออก TV กันทุกช่อง สุดท้ายกลายเป็นเรื่อง โอละพ่อ ไม่เคยได้รางวัลอะไรเลย แค่ลูกคนรวยเอาผลงานมาอวดพ่อแม่
มาถึงเรื่อง ทางการเยอรมัน เพิกถอนวีซ่าทักษิณอีก ไม่รู้จะสร้างข่าวลือไปถึงไหน
แค่ถอนวีซ่าไม่พอ ขนาดคนระดับนายก อย่างนายมาร์ค
ก็เป็นคนสร้างข่าวลือเสียเอง ว่าทักษิณใช้ชื่อปลอมอีก
ขนาดข่าวเยอรมันเพิกถอนวีซ่าทักษิณ มันเป็นนายกตอนนี้ยังไม่รู้เรื่องว่าจริงหรือไม่จริง นักข่าวถามก็บอกว่าไม่ได้รับรายงาน
นักข่าวมันก็งี่เง่า แค่ยกหูโทรศัพท์ไปถามสถานฑูตเยอรมัน ก็รู้เรื่องแล้ว
มาทำอะไรกับนายกประเทศไทย
นายมาร์คไม่รู้ว่าเยอรมันเพิกถอนวีซ่าทักษิณจริงหรือไม่จริง แต่มันดันรู้ว่า ทักษินเดินทางโดยใช้ชื่อปลอม สงสัยมีคนรายงาน หรือไม่มันพูดแบบไม่คิด
ถ้ามันคิดได้ขนาดนี้ ทำไมไม่พูดไปเลยว่าทักษิณไปผ่าตัดแปลงโฉมไปเลยละ
หน้าตาแบบทักษิณ เปลี่ยนชื่อแล้วมีหรือ ตม. จะจำไม่ได้
ถ้าไม่แปลงโฉมไปด้วย แล้ว มันคุ้มมัยละ ถ้าเกิดไปถูกจับข้อหา
ปลอมแปลงเอกสาร
Thursday, June 04, 2009
อ่อนใจ กับคดี พันธมิตร จริง ๆ
แกนนำเสื้อแดงโวยวายว่า คดีสงกรานต์เลือด พนักงานสอบสวนเร่งรัดดำเนินคดีรวดเร็วทันใจมาก ไม่เปิดโอกาสให้ยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อแก้ข้อกล่าวหา เลยต้องออกมาเรียกร้อง ขอความเป็นธรรม
3 ข้อกล่าวหาที่แกนนำเสื้อแดงโดน คือ มั่วสุม มีการปลุกปั่นให้เกิดความปั่นป่วนในบ้านเมือง และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง มีทั้งโทษจำ และ ปรับ โทษติดคุก ถ้าจำไม่ผิด ก็ 3 ปีขึ้นไป
ขอความเป็นธรรมน่ะได้ แต่คงไม่มีผลอะไร อัยการ นัดฟังการสั่งคดี 10 มิถุนายนนี้แล้ว ก่อนหน้านั้น ทั้ง อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นพ. เหวง โตจิราการ วีระ มุสิกพงศ์ ณัฐวุฒิ ใสย เกื้อ ก็นอนคุกมาแล้ว ก่อนได้ประกันตัว โดยมีข้อแม้ ต้องไม่ไปปลุกระดมอีก
แต่ก็แปลก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง โดนคดียึดทำเนียบ ได้ประกันปั๊บ ตรงดิ่งไปทำเนียบปลุกระดมมวลชนต่อปุ๊บ ก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไร มิหนำซ้ำ สำนักงานเลขาธิการ ครม. ยังถอนแจ้งความแกนนำพันธมิตรฯ อีก
อ้างดื้อ ๆ เสื้อเหลืองถอนจากทำ เนียบแล้ว ไม่ติดใจเอาความ มัน 2 มาตรฐานมั้ยเล่า ???
ขณะที่คดีคนเสื้อเหลือง ที่ยึดสนามบินดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ถึงตอนนี้เกิน 6 เดือนแล้ว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เคยไปพูดที่ “ออกซฟอร์ด” ให้คำมั่น อีก 2 อาทิตย์หลังกลับจากอังกฤษ คดีนี้จะเรียบร้อยที่สุด
ผ่านมาอีก 2-3 เดือน ไม่มีอะไรหือเออตามเคย
ล่าสุด ตำรวจบอก รอการท่าอากาศยานแจ้งความเสียหายมา ฟังแล้วงง การท่าฯ ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 5-6 พันล้านไปตั้งแต่ปีมะโว้ การบินไทย ก็ฟ้องเกือบ 2 หมื่นล้าน แล้วยังรอแจ้งอะไรอีก หรือแค่รอวิธีซื้อเวลาไปวัน ๆ
ใครจะเชื่อ ไม่มีใบสั่ง
เหนืออื่นใด ที่คนทั้งบ้านทั้งเมืองกำลังเงี่ยหูฟังคือ ตกลงตำรวจจะกล้าหาญชาญชัยแจ้งข้อหาพวกที่ยึดสนามบิน เป็นการก่อการร้าย หรือไม่ ไปพลิกดูกฎหมายความมั่นคง มันชัด การปิดสนามบิน จนเครื่องบินขึ้นลงไม่ได้เป็นสัปดาห์ ผู้โดยสาร 3 แสนติดแหง็ก ชื่อเสียงไทยป่นปี้ การท่องเที่ยวยับเยิน
ชาติพี่เบิ้ม สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ออกแถลงการณ์ให้ดำเนินคดีพวกยึดสนามบินเด็ดขาด ดูยังไง จึงไม่พ้นข้อหา ก่อการร้าย หากยึดสนามบินโดนแค่จิ๊บจ๊อย บุกรุก กีดขวางจราจร อีกหน่อย คงมียึดทุกวันหรอก !!!
พิษสงคดีนี้ ก็แรงมาก พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ยื่นลาออกจากหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเมื่อ 12 พ.ค. ผบ.ตร. แต่งตั้ง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. รับไม้แทนทันที พล.ต.อ.ธานี บอกหน้าตาเฉย เท่าที่ดูจากรายงาน ไม่เห็นมีการแจ้งข้อหาก่อการร้าย อ้าว อย่างนี้ก็งานเข้าสิ
เพราะบังเอิญได้ข่าว นายตำรวจบางคนไม่อยากติดคุกตอนแก่ เพราะรับใบสั่ง กลัวถูกฟ้องเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ม.157 เลยถอนตัวดีกว่า ตัว พล.ต.อ.ธานี เอง ก็เหลือราชการแค่ 4 เดือน
ชอบอะไรเสี่ยง ๆ หรือไง ก็ไม่รู้สิ
สำหรับเสื้อแดงที่จะชุมนุมใหญ่ 27 มิ.ย. ตอนนี้ถูกวิชามารปล่อยข่าวเละ จะมีการเผาบ้านเผาเมือง ทำลายโอกาสฟื้นของประเทศ...อีกแล้ว อย่างนี้ หากไม่รู้จักสรุปบทเรียนสงกรานต์เลือด เดินไปตกหลุมให้เค้าเชือดอีก
บอกได้คำเดียว สมควรตาย จริง-จริง นั่นแหละ
ก่อนจบ วันนี้ คงรู้ โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน จะฝ่าด่าน ครม. ได้หรือไม่ เห็นภูมิใจไทยขู่ฟ่อ “ถึงเวลาแล้วก็จะรู้เอง” ถ้าไม่ผ่าน ก็เชียร์นายกฯ ลองไม่ให้ผ่านสักตั้ง อยากรู้เหมือนกัน จะเกิดอะไรขึ้น.
ดาวประกายพรึก
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_columns/default.aspx?CategoryID=40&NewsType=2
++นักการตลาดระดับโลก "ฟิลิป คอตเลอร์ " แนะไทยใช้การตลาดแบบโอทอปของคุณทักษิณ ฟื้นเศรษฐกิจได้แน่++
++นักการตลาดระดับโลก "ฟิลิป คอตเลอร์ " แนะไทยใช้การตลาดแบบโอทอปของคุณทักษิณ ฟื้นเศรษฐกิจได้แน่++
**********************************
ในฐานะประเทศที่มีพื้นฐานด้านเกษตรกรรมที่แข็งแกร่ง ดร.คอตเลอร์ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ด้วยว่า ในฐานะที่ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ต้องพยายามพัฒนาสินค้าให้ทันสมัย เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยการแปรรูป แทนที่จะขายสินค้าเกษตรที่เป็นวัตถุดิบซึ่งมีราคาถูก
"ภาคเกษตรกรรมมีความสำคัญมาก ต้องพยายามนำเทคโนโลยีมาพัฒนาการเกษตร พร้อมกับหาแนวทางเพื่อนำสินค้าออกสู่ตลาดให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และต้องไม่ลืมเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าเกษตร"
โดยในศตวรรษที่ 21 ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ไทยอยู่รอดในวิกฤตโลกได้ คือการสร้างนวัตกรรมทั้งในแง่ของผลิตภัณฑ์และบริการที่สื่อถึงเสน่ห์ของความเป็นไทย ต้องพยายามแสวงหาและโปรโมตบริษัทที่มีความโดดเด่น
"การสร้างนวัตกรรม ไม่จำเป็นต้องอาศัยวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว เพราะการสร้างสรรค์นั้นแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ hard creativity และ soft creativity ไทยมีความโดดเด่นทางด้าน soft creativity อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบสิ่งต่างๆ การโฆษณา สิ่งที่สวยงาม และธุรกิจบันเทิง สิ่งเหล่านี้สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้"
Tuesday, June 02, 2009
ราชดำเนิน Pantip.com ถูกคุกคาม
อยากจะคิดว่า มันเกิดอะไรขึ้น
หลังจาก เล็งเด็ดหัว Login สีแดงตัวเป้าไปทีละคน ที่ละคน ทีละคน ที่มีฝีมือฝีปาก อยู่ในระดับแนวหน้าจนแทบจะหมดไปจาก ห้องราชดำเนิน อยู่แล้ว เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า
หากยังใช้ยุทธวิธีเดิม คือปล่อยให้ต่อสู้กันแบบ เหตุและผล ต่อไป
ชาติหน้าก็ไม่รู้ว่า ฝ่ายเหลือง+เขียว จะชนะได้หรือไม่
จึงต้องใช้วิธี กูยัดข้อหาให้พวกเมิงแต่เพียงฝ่ายเดียวอย่างที่เห็น
การประหารและสั่งขัง Login แต่เพียงฝ่ายเดียวอย่างน่าเกลียดจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
บางคนแค่ใช้ภาพแทนคำพูด ก็ไม่สามารถจะนำออกมาให้ดูกันได้ เพราะมันแสลงใจผู้มีอำนาจในบ้านนี้เมืองนี้
จนต้องทยอยมาตั้งกองกำลังกันที่ประชาไท และกำลังทยอยอพยพเข้ามาที่นี่กันไม่ขาดสาย
เต็มรูปแบบแล้วสินะ พร้อมที่จะโดดเข้าเลียรองเท้าบูท อย่างเต็มอกเต็มใจแล้ว
เดินตามรอยสื่อ (หรือว๊ะ) อย่าง ทีวีสาธารณะ และสื่อหอยม่วง อย่างเต็มรูปแบบแล้ว
ความเสื่อม ไม่ได้เกิดจากการกระทำของคนอื่น แต่ความเสื่อมนั้นมักจะเกิดจากการกระทำของตัวเอง
หมดแล้วตำนานราชดำเนิน
รายการ "เพื่อนพ้องน้องพี่"ของชาวเสื้อแดง ดูได้แล้ว
Monday, June 01, 2009
อดีตคนเดือนตุลามองพรรคพันธมิตรฯ
อดีตคนเดือนตุลามองพรรคพันธมิตรฯ
“พรรคพันธมิตรฯน่าจะไปได้ แต่คงไม่โต เพราะมีฐานเสียงเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบเพราะทำงานการเมืองมานาน มีฐานมวลชน อย่างมากพรรคพันธมิตรฯจะได้เต็มที่ 10-20 เสียงในการเลือกตั้งสมัยหน้า และจะเป็นพรรคเล็กๆพรรคหนึ่งในสภา”
นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตคนเดือนตุลา กล่าวกับ “โลกวันนี้” ถึงการจัดตั้งพรรคการเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่แย้มว่าอาจใช้การบริหารพรรคแบบ “โปลิตบูโร” และพร้อมที่จะเดินคู่กับกลุ่มอำมาตย์ว่า น่ายินดีและน่าสนใจที่กลุ่มพันธมิตรฯพร้อมจะเดินคู่กับระบอบอำมาตยาธิปไตย เรื่องนี้ถ้ามองในเชิงประชาธิปไตยก็เป็นสิทธิที่ทำได้ เพียงแต่มีความรู้สึกว่าในทางประวัติศาสตร์ระบอบอำมาตยาธิปไตยไม่สอดคล้องกับการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
“ผมอาจจะท้วงว่าเป็นเรื่องโบราณเกินไป อย่าไปรักษาไว้เลย ควรปล่อยให้พังทลายไป แต่ในทางประชาธิปไตยถ้าพันธมิตรฯจะเอาอย่างนั้นก็แล้วแต่เขา ถ้าประชาชนเสียงข้างมากอยากเลือกฝ่ายอำมาตย์ก็แล้วแต่ และที่พันธมิตรฯประกาศตัวว่าจะเป็นพรรคฝ่ายอำมาตย์ก็ชัดเจนดี ในส่วนตัวผมไม่เอาระบอบอำมาตย์ เพราะผมสู้กับระบอบนี้มาตลอด และก็จะต่อสู้ต่อไป”
ส่วนที่พันธมิตรฯจะใช้รูปแบบ “โปลิตบูโร” นั้น นายสุธาชัยกล่าวว่า เป็นการจัดองค์กรภายในที่ไม่มีอะไรเสียหาย เพราะระบบโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อมีการเลือกคณะกรรมการกลางแล้วก็เลือกคล้ายๆกับเป็นคณะกรรมาธิการย่อยชุดหนึ่งมาทำงานด้านการเมือง แต่ในทางปฏิบัติ งานการเมืองเป็นใจกลางของพรรค คณะกรรมการหรือโปลิตบูโรก็จะคุมแกนนำของพรรคไปในตัวด้วย การนำระบบโปลิตบูโรมาใช้จึงไม่มีอะไรเสียหาย เป็นเพียงวิธีการหนึ่งที่ใช้กัน ซึ่งมีความชัดเจนดีว่าใครทำหน้าที่อะไรด้านการเมือง ถือเป็นข้อดีของพันธมิตรฯ
ส่วนพันธมิตรฯจะผลักดันการเมืองใหม่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยได้หรือไม่นั้น ถ้าพันธมิตรฯมีความมั่นใจ จะเป็นการเมืองแบบไหนก็ตามถ้าประชาชนเอาด้วยก็ได้ทั้งนั้น ถ้าพันธมิตรฯคิดว่าการเมืองใหม่ของเขาดีจริงก็ผลักดันให้ประชาชนเห็นด้วย เพราะการเมืองในระบอบประชาธิปไตยเคารพความเห็นที่แตกต่าง แต่จะเอาความต่างนั้นมาตัดสินด้วยสันติวิธี ด้วยเสียงข้างมากของประชาชน เพราะประชาธิปไตยไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบถาวร ไม่เหมือนระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ประชาธิปไตยมีเงื่อนเวลา 4 ปี ถ้าทำไม่ได้ประชาชนก็เลือกคนอื่นพรรคอื่น
“พรรคพันธมิตรฯน่าจะไปได้ แต่คงไม่โต เพราะสิ่งที่เขาต้องเจอคือฐานเสียงเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ผมคิดว่าประชาชนที่เลือกหรือสนับสนุนพรรคเพื่อไทยจะไม่เลือกพรรคพันธมิตรฯ เรื่องฐานเสียงจึงเป็นข้อจำกัด ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบเพราะทำงานการเมืองมานาน มีฐานมวลชน ผมไม่คิดว่าพรรคพันธมิตรฯจะเอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ได้ พรรคพันธมิตรฯอย่างมากได้เต็มที่ 10-20 เสียงในการเลือกตั้งสมัยหน้า และจะเป็นพรรคเล็กๆพรรคหนึ่งในสภา แต่ถ้าพรรคพันธมิตรฯชนะ ประชาชนที่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์หันมาเลือกพรรคพันธมิตรฯเป็นรัฐบาลผมก็รับได้ แต่กลัวถูกคุกคาม ถูกทำร้ายแค่นั้นเอง เพราะพรรคพันธมิตรฯแสดงตัวชัดเจนว่าเป็นฝ่ายขวาจัด เราก็ทำอะไรไม่ได้”
นายสุธาชัยยังให้ความเห็นกรณีพันธมิตรฯอาจจับมือกับกลุ่มคนเสื้อแดงในการพัฒนาประชาธิปไตยว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะอุดมการณ์ไปคนละทางกัน พรรคพันธมิตรฯอาจจับมือกับพรรคเพื่อไทยได้ เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองเหมือนกัน แต่ขบวนการเสื้อแดงมีจุดมุ่งหมายในการสร้างประชาธิปไตยให้สมบูรณ์ ขอย้ำว่ายากที่พันธมิตรฯจะจับมือกับกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อพัฒนาระบอบประชาธิปไตยร่วมกัน อย่างมากก็ไม่ตีกัน คือต่างคนต่างเลือกทางเดิน ซึ่งก็หวังตรงนั้น ปล่อยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินเองว่าจะเห็นด้วยกับฝ่ายใด ถ้าทำได้จะเป็นฉากที่ดีมาก เป็นการเคารพความแตกต่างของกันและกัน และไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ถ้ารับได้ก็ร่วมกันไปนานแล้ว
ที่มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 4 ฉบับที่ 209 วันที่ 30 พฤษภาคม – 5 มิถุนายน 2552 หน้า 5 คอลัมน์ ล้อมกรอบเรื่องจากปก
“พรรคพันธมิตรฯน่าจะไปได้ แต่คงไม่โต เพราะมีฐานเสียงเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบเพราะทำงานการเมืองมานาน มีฐานมวลชน อย่างมากพรรคพันธมิตรฯจะได้เต็มที่ 10-20 เสียงในการเลือกตั้งสมัยหน้า และจะเป็นพรรคเล็กๆพรรคหนึ่งในสภา”
นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตคนเดือนตุลา กล่าวกับ “โลกวันนี้” ถึงการจัดตั้งพรรคการเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่แย้มว่าอาจใช้การบริหารพรรคแบบ “โปลิตบูโร” และพร้อมที่จะเดินคู่กับกลุ่มอำมาตย์ว่า น่ายินดีและน่าสนใจที่กลุ่มพันธมิตรฯพร้อมจะเดินคู่กับระบอบอำมาตยาธิปไตย เรื่องนี้ถ้ามองในเชิงประชาธิปไตยก็เป็นสิทธิที่ทำได้ เพียงแต่มีความรู้สึกว่าในทางประวัติศาสตร์ระบอบอำมาตยาธิปไตยไม่สอดคล้องกับการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
“ผมอาจจะท้วงว่าเป็นเรื่องโบราณเกินไป อย่าไปรักษาไว้เลย ควรปล่อยให้พังทลายไป แต่ในทางประชาธิปไตยถ้าพันธมิตรฯจะเอาอย่างนั้นก็แล้วแต่เขา ถ้าประชาชนเสียงข้างมากอยากเลือกฝ่ายอำมาตย์ก็แล้วแต่ และที่พันธมิตรฯประกาศตัวว่าจะเป็นพรรคฝ่ายอำมาตย์ก็ชัดเจนดี ในส่วนตัวผมไม่เอาระบอบอำมาตย์ เพราะผมสู้กับระบอบนี้มาตลอด และก็จะต่อสู้ต่อไป”
ส่วนที่พันธมิตรฯจะใช้รูปแบบ “โปลิตบูโร” นั้น นายสุธาชัยกล่าวว่า เป็นการจัดองค์กรภายในที่ไม่มีอะไรเสียหาย เพราะระบบโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อมีการเลือกคณะกรรมการกลางแล้วก็เลือกคล้ายๆกับเป็นคณะกรรมาธิการย่อยชุดหนึ่งมาทำงานด้านการเมือง แต่ในทางปฏิบัติ งานการเมืองเป็นใจกลางของพรรค คณะกรรมการหรือโปลิตบูโรก็จะคุมแกนนำของพรรคไปในตัวด้วย การนำระบบโปลิตบูโรมาใช้จึงไม่มีอะไรเสียหาย เป็นเพียงวิธีการหนึ่งที่ใช้กัน ซึ่งมีความชัดเจนดีว่าใครทำหน้าที่อะไรด้านการเมือง ถือเป็นข้อดีของพันธมิตรฯ
ส่วนพันธมิตรฯจะผลักดันการเมืองใหม่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยได้หรือไม่นั้น ถ้าพันธมิตรฯมีความมั่นใจ จะเป็นการเมืองแบบไหนก็ตามถ้าประชาชนเอาด้วยก็ได้ทั้งนั้น ถ้าพันธมิตรฯคิดว่าการเมืองใหม่ของเขาดีจริงก็ผลักดันให้ประชาชนเห็นด้วย เพราะการเมืองในระบอบประชาธิปไตยเคารพความเห็นที่แตกต่าง แต่จะเอาความต่างนั้นมาตัดสินด้วยสันติวิธี ด้วยเสียงข้างมากของประชาชน เพราะประชาธิปไตยไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบถาวร ไม่เหมือนระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ประชาธิปไตยมีเงื่อนเวลา 4 ปี ถ้าทำไม่ได้ประชาชนก็เลือกคนอื่นพรรคอื่น
“พรรคพันธมิตรฯน่าจะไปได้ แต่คงไม่โต เพราะสิ่งที่เขาต้องเจอคือฐานเสียงเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ผมคิดว่าประชาชนที่เลือกหรือสนับสนุนพรรคเพื่อไทยจะไม่เลือกพรรคพันธมิตรฯ เรื่องฐานเสียงจึงเป็นข้อจำกัด ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบเพราะทำงานการเมืองมานาน มีฐานมวลชน ผมไม่คิดว่าพรรคพันธมิตรฯจะเอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ได้ พรรคพันธมิตรฯอย่างมากได้เต็มที่ 10-20 เสียงในการเลือกตั้งสมัยหน้า และจะเป็นพรรคเล็กๆพรรคหนึ่งในสภา แต่ถ้าพรรคพันธมิตรฯชนะ ประชาชนที่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์หันมาเลือกพรรคพันธมิตรฯเป็นรัฐบาลผมก็รับได้ แต่กลัวถูกคุกคาม ถูกทำร้ายแค่นั้นเอง เพราะพรรคพันธมิตรฯแสดงตัวชัดเจนว่าเป็นฝ่ายขวาจัด เราก็ทำอะไรไม่ได้”
นายสุธาชัยยังให้ความเห็นกรณีพันธมิตรฯอาจจับมือกับกลุ่มคนเสื้อแดงในการพัฒนาประชาธิปไตยว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะอุดมการณ์ไปคนละทางกัน พรรคพันธมิตรฯอาจจับมือกับพรรคเพื่อไทยได้ เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองเหมือนกัน แต่ขบวนการเสื้อแดงมีจุดมุ่งหมายในการสร้างประชาธิปไตยให้สมบูรณ์ ขอย้ำว่ายากที่พันธมิตรฯจะจับมือกับกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อพัฒนาระบอบประชาธิปไตยร่วมกัน อย่างมากก็ไม่ตีกัน คือต่างคนต่างเลือกทางเดิน ซึ่งก็หวังตรงนั้น ปล่อยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินเองว่าจะเห็นด้วยกับฝ่ายใด ถ้าทำได้จะเป็นฉากที่ดีมาก เป็นการเคารพความแตกต่างของกันและกัน และไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ถ้ารับได้ก็ร่วมกันไปนานแล้ว
ที่มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 4 ฉบับที่ 209 วันที่ 30 พฤษภาคม – 5 มิถุนายน 2552 หน้า 5 คอลัมน์ ล้อมกรอบเรื่องจากปก
ชาย 2 คนกับละครชีวิตที่มีมนุษย์เป็นผู้กำกับ
ชายคนหนึ่ง เกิดมาต้องต่อสู้กับชีวิต ดิ้นรนกับความยากลำบากตั้งแต่ยังเล็ก ล้มแล้วก็ลุก ลุกแล้วก็ล้ม สลับผลัดเปลี่ยนกันไป จนว้นหนึ่งพระเจ้าแลเห็นความวิริยะอุสาหะของชายคนนี้ จึงให้ได้พบกับความสำเร็จของชีวิต จนมีฐานะระดับมหาเศรษฐีดระดับต้นๆของประเทศ
ชายอีกคน เกิดมาในตระกูลสูงศักดิ์ ชีวิตไม่เคยพบกับความลำบาก การต่อสู้ที่ยากลำบากที่สุดของชายคนนี้ ก็คือการเพียรพยายามในการเรียนหนังสือให้จบตามหลักสูตร ตามความตั้งใจของตัวเอง
ชายคนแรก หลังจากประสบกับความสำเร็จของชีวิตทางด้านธุรกิจ ก็หมดความท้าทาย จึงหันเข้ามาสู่เวทีการเมือง แรกๆที่เข้าสู่การเมือง ก็อยากเปลี่ยนแปลงระบอบการเมืองของประเทศเสียใหม่ ด้วยการใช้นโยบายในการแก้ไขปัญหา แต่ไม่ได้ผล เพราะภาคการเมืองช่วงนั้นอ่อนแอ มีหลายพรรคในการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้การทำงานที่จะบรรลุตามนโยบายค่อนข้างลำบาก จงถอยฉากออกมา เพื่อตั้งหลักใหม่
ชายอีกคน หลังเรียนจบก็เข้าสู่การเมือง จากรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลา ประกอบการพูดจาที่เฉียบแหลม ทำให้ประสบกับความสำเร็จในเวทีเลือกตั้ง
ชายคนแรก หลังจากตั้งหลักได้ ก็เข้าสู่เวทีการเมืองอีกครั้ง คราวนี้เขาได้ดูเยี่ยงอย่างจากสิงคโปร์ มาเลเซีย ที่พรรคการเมืองเข้มแข็ง ทำให้เศรษฐกิจก้าวหน้า จึงได้รวบรวมพรรคต่างๆ กลุ่มต่างๆให้มารวมเป็นพรรคเดียว และจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสียงข้างมากอย่างมีเอกภาพ จนทำให้นโยบายต่างๆภายใต้การนำของชายผู้นี้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว จนเลือกตั้้งในครั้งที่สองได้รับการเลือกเข้ามาอย่างถล่มทลาย ทำลายประวัติศาสตร์การเลือกตั้งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จนไ้ด้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเพียงพรรคเดียว
ชายคนหลังๆจากเป็นผู้แทน เป็นโฆษก เป็นรัฐมนตรี ก็ไม่มีผลงานอะไรโดดเด่นจนเป็นที่กล่าวถึงของสังคม แต่กลับได้เป็นหัวหน้าพรรค เพียงเพราะรูปร่างหน้าตา และยังไม่มีประวัติที่ด่างพร้อยพอให้สังคมขุดคุ้ย แต่ก็ไม่ได้แสดงภาวะผู้นำในการเป็นหัวหน้าพรรคแต่อย่างไร นอกจากการตอบโต้กับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างดี เท่านั้นเองที่เป็นผลงานทำให้ให้แก่พรรค
ชายคนแรก ได้ดำเนินการเพื่อพี่น้องชาวรากหญ้า ด้วยการรักษาโรคด้วยเงินเพียง 30 บาท กองทุนหมู่บ้านเพื่อให้คนจนเข้าถึงแหล่งเงินได้ง่าย ส่งเสริมหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล จนชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยปราบมาเฟีย เพื่อให้ชาวบ้านผู้ยากไร้ต้องถูกข่มเหง ปราบยาเสพติดอย่างได้ผล ทำให้ครอบครัวได้ลูกหลานกลับคืนสู่อ้อมอกและเป็นคนที่มีประสิทธิภาำพต่อไป อีกทั้งการนำหวยใต้ดินขึ้นสู่บนดิน ได้ทั้งภาษีจากการขายหวยมาช่วยนักศักษาผู้มีปัญญาแต่ขาดโอกาส ทั้งยังเป็นการปราบหวยเถือนได้อย่างชะงัด
ชายคนที่สอง กลับเห็นเป็นตรงข้าม การรักษาโรคด้วยเงินเพียง 30 บาททำให้เกิดสมองไหล แพทย์ต่างๆหมดกำลังใจ กองทุนหมุ่บ้านเป็นการสร้างหนี้ให้ภาคครัวเรือน การปราบยาเสพติดที่เข้มข้น เป็นการทำลายสิทธิมนุษยชน การทำหวยเป็นการมอมเมาประชาชน แต่ก็ยังไ่ม่เคยเสนอความเห็นในการช่วยเหลือชาวบ้านได้ดีกว่า
เหตุการณ์ดำเนินถึงตอนนี้ เริ่มมีคนเข้ามากำกับเส้นทางชีวิตของชายทั้งสองให้เป็นไปตามละครที่กำหนดไว้
ชายคนแรก จากพ่อค้านักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เป็นนักการเมืองที่ทำงานให้กับคนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ไม่เคยมีประวัติฉ้อโกง ไม่มีท่าทีที่จะจาบจ้วงสถาบัน ไม่มีเค้าว่าจะเป็นคนกลายชาติ ท่านผู้กำกับก็กำกับแบบหักมุม กลายเป็นบุคคลที่เลวอย่างมหาเลว จากไม่เคยโกง ก็กลายเป็นโกงอย่างมหาโกง กลายมาเป็นคนที่จ้องจะล้มสถาบัน เป็นคนขายชาติ
ชายคนที่หลัง กลับกลายมาเป็นนายกฯที่ขาวสะอาด กลายมาเป็นนายกฯที่ดีที่สุด กลายเป็นนายกฯที่รักประชาธิปไตย และเพียงชั่วค่ำคืน กลายมาเป็นนากยฯที่มีภาวะผู้นำสูงสุด และกลายเป็นนายกฯที่ประชาชนให้ความศรัทธาอย่างมากในเวลาเพียง 5 เดือนในการบริหารแผ่นดิน
แต่ถึงอย่างไรละครชีวิตเรื่องนี้ยังไม่จบ ยังคาดเดาอะไรไม่ได้ ยังไม่รู้ว่าผู้กำกับยังต้องการให้ละครเรื่องนี้จบอย่างไร แต่ชาย 2 คนนี้ก็ผูกพันธ์กับอนาคตของคนอีก 60 กว่าล้านคน ซึ่งไม่มีโอกาสร่วมแสดงด้วย เพราะคนทั้ง 60 กว่าล้านคนเป็นได้แค่หุ่นกระบอกที่มีเชือกที่มองไม่เห็นหลายเส้นผูกติดอยู่ แ้ล้วแต่คนชักจะชักไปทางใหน ไม่มีสิทธิ์คิดเอง ไม่มีิสิทธิ์เลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง
สำหรับผมไม่ยอมที่จะเป็นหุ่นกระบอกให้ใครชัก ไม่ว่าจะดีสักแค่ใหน ชีวิตของผม ผมขอเลือกทางเดินของผมเองดีกว่า ถึงจะเลวร้ายก็เป็นเพราะผมเลือกเอง ดังนั้นสิ่งที่ผมจะทำต่อไปนี้ก็คือการหาทางตัดเชือกที่มองไม่เห็นให้ขาด เพื่อหลุดจากการควบคุม แล้วท่านล่ะ ยังอยากเป็นหุ่นต่อไปหรือครับ
ชายอีกคน เกิดมาในตระกูลสูงศักดิ์ ชีวิตไม่เคยพบกับความลำบาก การต่อสู้ที่ยากลำบากที่สุดของชายคนนี้ ก็คือการเพียรพยายามในการเรียนหนังสือให้จบตามหลักสูตร ตามความตั้งใจของตัวเอง
ชายคนแรก หลังจากประสบกับความสำเร็จของชีวิตทางด้านธุรกิจ ก็หมดความท้าทาย จึงหันเข้ามาสู่เวทีการเมือง แรกๆที่เข้าสู่การเมือง ก็อยากเปลี่ยนแปลงระบอบการเมืองของประเทศเสียใหม่ ด้วยการใช้นโยบายในการแก้ไขปัญหา แต่ไม่ได้ผล เพราะภาคการเมืองช่วงนั้นอ่อนแอ มีหลายพรรคในการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้การทำงานที่จะบรรลุตามนโยบายค่อนข้างลำบาก จงถอยฉากออกมา เพื่อตั้งหลักใหม่
ชายอีกคน หลังเรียนจบก็เข้าสู่การเมือง จากรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลา ประกอบการพูดจาที่เฉียบแหลม ทำให้ประสบกับความสำเร็จในเวทีเลือกตั้ง
ชายคนแรก หลังจากตั้งหลักได้ ก็เข้าสู่เวทีการเมืองอีกครั้ง คราวนี้เขาได้ดูเยี่ยงอย่างจากสิงคโปร์ มาเลเซีย ที่พรรคการเมืองเข้มแข็ง ทำให้เศรษฐกิจก้าวหน้า จึงได้รวบรวมพรรคต่างๆ กลุ่มต่างๆให้มารวมเป็นพรรคเดียว และจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสียงข้างมากอย่างมีเอกภาพ จนทำให้นโยบายต่างๆภายใต้การนำของชายผู้นี้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว จนเลือกตั้้งในครั้งที่สองได้รับการเลือกเข้ามาอย่างถล่มทลาย ทำลายประวัติศาสตร์การเลือกตั้งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จนไ้ด้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเพียงพรรคเดียว
ชายคนหลังๆจากเป็นผู้แทน เป็นโฆษก เป็นรัฐมนตรี ก็ไม่มีผลงานอะไรโดดเด่นจนเป็นที่กล่าวถึงของสังคม แต่กลับได้เป็นหัวหน้าพรรค เพียงเพราะรูปร่างหน้าตา และยังไม่มีประวัติที่ด่างพร้อยพอให้สังคมขุดคุ้ย แต่ก็ไม่ได้แสดงภาวะผู้นำในการเป็นหัวหน้าพรรคแต่อย่างไร นอกจากการตอบโต้กับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างดี เท่านั้นเองที่เป็นผลงานทำให้ให้แก่พรรค
ชายคนแรก ได้ดำเนินการเพื่อพี่น้องชาวรากหญ้า ด้วยการรักษาโรคด้วยเงินเพียง 30 บาท กองทุนหมู่บ้านเพื่อให้คนจนเข้าถึงแหล่งเงินได้ง่าย ส่งเสริมหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล จนชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยปราบมาเฟีย เพื่อให้ชาวบ้านผู้ยากไร้ต้องถูกข่มเหง ปราบยาเสพติดอย่างได้ผล ทำให้ครอบครัวได้ลูกหลานกลับคืนสู่อ้อมอกและเป็นคนที่มีประสิทธิภาำพต่อไป อีกทั้งการนำหวยใต้ดินขึ้นสู่บนดิน ได้ทั้งภาษีจากการขายหวยมาช่วยนักศักษาผู้มีปัญญาแต่ขาดโอกาส ทั้งยังเป็นการปราบหวยเถือนได้อย่างชะงัด
ชายคนที่สอง กลับเห็นเป็นตรงข้าม การรักษาโรคด้วยเงินเพียง 30 บาททำให้เกิดสมองไหล แพทย์ต่างๆหมดกำลังใจ กองทุนหมุ่บ้านเป็นการสร้างหนี้ให้ภาคครัวเรือน การปราบยาเสพติดที่เข้มข้น เป็นการทำลายสิทธิมนุษยชน การทำหวยเป็นการมอมเมาประชาชน แต่ก็ยังไ่ม่เคยเสนอความเห็นในการช่วยเหลือชาวบ้านได้ดีกว่า
เหตุการณ์ดำเนินถึงตอนนี้ เริ่มมีคนเข้ามากำกับเส้นทางชีวิตของชายทั้งสองให้เป็นไปตามละครที่กำหนดไว้
ชายคนแรก จากพ่อค้านักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เป็นนักการเมืองที่ทำงานให้กับคนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ไม่เคยมีประวัติฉ้อโกง ไม่มีท่าทีที่จะจาบจ้วงสถาบัน ไม่มีเค้าว่าจะเป็นคนกลายชาติ ท่านผู้กำกับก็กำกับแบบหักมุม กลายเป็นบุคคลที่เลวอย่างมหาเลว จากไม่เคยโกง ก็กลายเป็นโกงอย่างมหาโกง กลายมาเป็นคนที่จ้องจะล้มสถาบัน เป็นคนขายชาติ
ชายคนที่หลัง กลับกลายมาเป็นนายกฯที่ขาวสะอาด กลายมาเป็นนายกฯที่ดีที่สุด กลายเป็นนายกฯที่รักประชาธิปไตย และเพียงชั่วค่ำคืน กลายมาเป็นนากยฯที่มีภาวะผู้นำสูงสุด และกลายเป็นนายกฯที่ประชาชนให้ความศรัทธาอย่างมากในเวลาเพียง 5 เดือนในการบริหารแผ่นดิน
แต่ถึงอย่างไรละครชีวิตเรื่องนี้ยังไม่จบ ยังคาดเดาอะไรไม่ได้ ยังไม่รู้ว่าผู้กำกับยังต้องการให้ละครเรื่องนี้จบอย่างไร แต่ชาย 2 คนนี้ก็ผูกพันธ์กับอนาคตของคนอีก 60 กว่าล้านคน ซึ่งไม่มีโอกาสร่วมแสดงด้วย เพราะคนทั้ง 60 กว่าล้านคนเป็นได้แค่หุ่นกระบอกที่มีเชือกที่มองไม่เห็นหลายเส้นผูกติดอยู่ แ้ล้วแต่คนชักจะชักไปทางใหน ไม่มีสิทธิ์คิดเอง ไม่มีิสิทธิ์เลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง
สำหรับผมไม่ยอมที่จะเป็นหุ่นกระบอกให้ใครชัก ไม่ว่าจะดีสักแค่ใหน ชีวิตของผม ผมขอเลือกทางเดินของผมเองดีกว่า ถึงจะเลวร้ายก็เป็นเพราะผมเลือกเอง ดังนั้นสิ่งที่ผมจะทำต่อไปนี้ก็คือการหาทางตัดเชือกที่มองไม่เห็นให้ขาด เพื่อหลุดจากการควบคุม แล้วท่านล่ะ ยังอยากเป็นหุ่นต่อไปหรือครับ
Subscribe to:
Posts (Atom)