Thursday, April 23, 2009

ทางออกที่ยังจะพอเหลืออยู่บ้าง..






ผมไม่ได้ชอบสีใดสีหนึ่งแบบสุดโต่ง... แต่ผมก็ต้องพูดตรงๆ ว่า ผมชื่นชอบมากๆ กับการกระทำในบางเรื่อง ของสีหนึ่ง....

ต้องพูดตรงๆ ว่า คนเรา “อยู่ตรงกลางเป๊ะ” มันเป็นไปไม่ได้... เพียงแต่กล้าพูดว่า ไม่ได้รังเกียจทั้ง 2 สีแบบสุดโต่ง...

แต่ผมจะไม่แสดงตัวว่าสีอะไร... ก็เพื่อว่า ทุกท่าน จะได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น หรืออัดแนวคิดได้เต็มที่...

= = = = =

ในระหว่างที่ปล่อยหมัดกันคนละหมัด... เหลืองอัดก่อน แดงอัดกลับ... เหลืองชนะ แดงเอาคืน ผลัดกันไปมาไม่มีท่าว่าจะจบสิ้น...

ทางออกคือ ทำอย่างไร จึงจะมีทางออกที่พอจะรับได้ของทุกฝ่าย..

ทั้ง... ฝ่ายแดง ฝ่ายเหลือง ผ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ฝ่ายทหาร ฝ่ายชนชั้นสูง ฝ่ายชนชั้นกลาง ฝ่ายชนชั้นล่าง... พอจะรับไหว...

ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่ง เรียกร้องมา 100 อย่าง ต้องได้หมดทั้ง 100 อย่าง... แบบนั้น สังคมอยู่ไม่ได้... ฝักฝ่ายไม่จบเสียที...

ในแนวคิดผม ที่มันก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมมีแนวทางออกฉุกเฉินตอนนี้ ให้ทุดฝ่ายไปคิด ก็คือ...

= = = = =

สถานการณ์วันที่ 13 เมษายน 2552... อย่างไรเสีย มันต้องมาถึงแน่นอน แต่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง นำทางออกนี้ไปตรึกตรองก่อนครับ...

ลืมเรื่องความต้องการแบบสุดโต่งของแต่ละฝ่ายไปก่อน...

ข้อเสนอผมมีดังนี้ครับ...

1. องคมนตรี 4 ท่าน ต้องยืนยัน จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง หรือล้วงลูกต่อไป... (โดยมอบให้ ข้อ 2 เป็นผู้แถลง)
ท่านยังคงเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ที่อีกหลายๆ คนให้ความเคารพนับถือ จึงยังคงต้องดำรงไว้ต่อไป...

2. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด...ผู้บัญชาการทหาร 3 เหล่าทัพ... ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นั่งแถลงเหมือนวันปฏิวัติ...
โดยแถลงว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองอีกต่อไป... และจะทำหน้าที่ปกป้อง ชาติ ศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์...
ส่วนตำรวจ ทำหน้าที่คุ้มครอง ปกป้องประชาชนในประเทศ...
และอย่ากระทำการเคลื่อนไหว เพียงแค่ สงสัย คิดว่า คาดว่า หรือเดาได้ว่า อีก...

3. รัฐบาลรีบนำเสนอร่าง พรบ.แก้ไข ให้มีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
โดยวิธีการเลือกตั้ง สสร. ให้เข้ามาทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น... นั่นคือ สสร. มาจากตัวแทนเสียงประชาชนจริงๆ
และรัฐบาลทำหน้าที่ต่อไปอีก 180 วัน เพื่อความสะดวกในการแก้ไขปัญหาประเทศในช่วงวิกฤติ
(สะดวกและสง่างาม ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดีกว่าเป็นรัฐบาลรักษาการณ์)
แล้วจึงค่อยประกาศยุบสภาเมื่อรัฐธรรมนูญใหม่เสร็จสิ้น... ซึ่งกระบวนการทั้งหมด ต้องใช้เวลาไม่เกิน 180 วัน...
นักวิชาการไม่ต้องออกมาต่อล้อต่อเถียงว่าเวลาไม่พอ... ต้องทำให้ได้ และเคยทำได้มาแล้ว ในปี 40

(ในความคิดเห็นผมเดียว... ทุกจังหวัด ทุกภาค คงจะได้ตัวแทนจากทั้งสีแดง และสีเหลืองมากันโดยถ้วยหน้า...
เน้น สสร.ชุดเดิม (2539-40) ที่ทำรัฐธรรมนูญได้ดีที่สุด และมองเห็นช่องโหว่ของตัวเอง
ผมจึงเชื่อว่าเขาจะเข้ามาอุดช่องโหว่ของรัฐธรรมนูญปี 2540 ได้)

4. เปิดประชุมสภาเป็นการฉุกเฉิน เพื่อเปิดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ... ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญภายใน 120 วัน (เท่านั้น)
ซึ่ง จัดให้มีการเลือกตั้ง สสร. ใน 30 วัน... แก้ไขอีก 120 วัน... ผ่านรัฐสภาอีก 15 วันคือ
ทูลเกล้าถวายร่างรัฐธรรมนูญ... (ขั้นตอนต่อไป อยู่ในพระราชวินิจฉัย ไม่ขอกล่าวต่อ)

5.เมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่... ให้รัฐบาลยุบสภา ทันที...

6. ไม่มีการนิรโทษกรรมใดๆ... ผู้กระทำผิด ต้องได้รับผิด... แต่การตัดสินที่ผ่านมา ไม่กินกับปัญญากับคนหลายๆ คน
คดีความของทุกคนทุกฝ่าย... ต้องนำกลับมาพิจารณาตัดสินใหม่อีกครั้ง... กับศาลสถิตยุติธรรมในกระบวนการที่ถูกที่ควร...
6.1 คดีความของอดีตนายกฯ ทักษิณ... ต้องนำกลับมาพิจารณาคดีความใหม่ ในกระบวนการศาลที่ทั่วโลกยอมรับ...
มีชั้นต้น อุทร ฎีกา เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก...
คดีความอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่ คตส. ได้ทำไว้ ให้นำมาพิจารณาโดย คตส.จะเป็นอัยการร่วม หรือเป็น พยาน ก็ว่าไป...

6.2 คดีความ บ้านเลขที่ 111 และอื่นๆ เกิดในสมัยรัฐธรรมนูญ 2540 ต้องนำมาตัดสินใหม่อีกครั้ง ในกระบวนการของรัฐธรรมนูญ 2540
ใครถูกผิด ตัดสินความตามเนื้อผ้า... ลงโทษเต็มที่

6.3 คดีใดที่เกิดในช่วงรัฐธรรมนูญปี 2550 ต้องนำมาพิจารณาตัดสินตามความผิดตามรัฐธรรมนูญ 2550

= = = = =

กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ต้องลงโทษผู้กระทำความผิดจริงเท่านั้น...

รัฐบาล ยังคงทำงานต่อไปได้อีกตั้ง 6-7 เดือน... เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ

ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเรียกร้องให้มีการลาออกทั้งหมด และยุบสภา... ไม่ควรทำให้เกิดสุญญากาศ

อดีตนายกทักษิณได้กลับสู่บ้านเกิด เพื่อต่อสู้คดีความต่างๆ ในระบบศาลที่น่าจะได้การยอมรับว่า ไม่เป็นเครื่องมือใคร...
ผิดก็คือผิด... ถูกก็กลับมาทำงานรับใช้ชาติต่อไป...
คดีที่โลกตะลึง ให้นำเข้าพิจารณาใหม่ครับ... ในเมื่อต้องการความถูกต้อง เหมาะสมใหม่...

แกนนำ เหลือง-แดง เข้ารับการพิจารณาคดีตามกระบวนการ...
(สิ่งที่แดงยังไม่พอใจในเรื่องคำสั่งฟ้องของตำรวจในคดีปิดสนามบิน ก็ยังมีชั้นอัยการที่สามารถสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมได้)

= = = = =

เป็นอย่างไรครับ พอรับได้ไหม...

“เหลือง” ต้องการให้ อดีตนายกฯทักษิณ กลับมาเข้ากระบวนการศาล... ก็ได้ตามนั้น...

“แดง” ต้องการให้รัฐบาลลาออก... ก็ได้ตามนั้น...

“เหลือง” และ “แดง” ต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่สะอาด ไม่อยู่ใต้อาณัติใคร... ก็ได้ตามนั้น...

“เหลือง” และ “แดง” ไม่ต้องการให้ทหารมายุ่งวุ่นวายกับการเมือง... ก็ได้ตามนั้น...

“เหลือง” และ “แดง” ต้องการความเชื่อมั่นในกระบวนการพิพากษา ที่เที่ยงธรรมแท้จริง... ก็ได้ตามนั้น...

หยุดเรียกร้องต้องการความสะใจของทุกฝ่ายไว้ก่อน... ได้กันคนละแค่นี้... ก็รู้จักพอก่อนครับ...

ส่วนขององคมนตรี อย่าถึงกับให้ลาออกเลยครับ... เท่านี้ องคมนตรีบางท่านก็ได้ทราบความต้องการของประชาชนแล้ว...

แต่ผมเอง (เจ้าของกระทู้) ก็รู้ร้อนรู้หนาว... จึงมองท่านองคมนตรีบางท่านว่า

3 ท่านแรกที่ถูกกล่าวพาดพิง... ผมไม่ติดใจครับ แม้จะเห็นความไม่เหมาะ...

แต่ท่าน พลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์... คนที่ผมให้ความเคารพนับถือมากว่า 30 ปี และยังคงเคารพท่านตลอดไป...

แต่ข้อมูลที่ท่านพูดออกมา ผิดพลาดเยอะนะครับ... ท่านจะให้คำปรึกษาผิดๆ แบบนี้กับพระองค์ท่านไม่ได้นะครับ...

ผมไม่เรียกร้องให้ท่านลาออก เพราะความรู้ความสามารถของท่านด้านอื่นๆ มีมากมายนัก... เรื่องเพียงแค่นี้ ผมไม่เลิกนับถือหรอกครับ...

แต่ผมนึกไปถึงนักการเงินการคลังมือสะอาด ไหว้ได้ไม่เสียมือ อย่าง นายพนัส สิมะเสถียร
หรือแม้แต่ มรว.จัตตุมงคล โสณกุล ก็มือสะอาด เก่ง แม้จะปากไวไปบ้าง...
ดูเหมือน ที่ในคณะองคมนตรี มีระดับนายพล เยอะไปหน่อย...

ผมดูแค่นั้น เห็นแค่นั้นนะครับ ไม่ได้ต้องการให้เปลี่ยนหรือเพิ่ม... ผมไม่บังอาจ...

= = = = =