Thursday, May 07, 2009

อยากจะอ๊วก คุณธรรมนำไทย เปิดธุรกิจเครือญาติ สนธิ






สนธิ รวยเวอร์ ข่าว การเมือง เผย หลัง ป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ขณะที่ทรัพย์สินก้อนดังกล่าวถูกตั้งคำถามจากคนบางกลุ่มว่าอดีตผู้บัญชาการทหารบก รับราชการมาตลอดชีวิต ขณะที่ภริยา 2 คนไม่ได้ประกอบธุรกิจอย่างชัดเจน ทำไมถึงมีทรัพย์สินเกือบ 100 ล้านบาท







ภายหลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นแห่งชาติ (คมช.) กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2550 โดยเปิดเผยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา


โดย พล.อ.สนธิ แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 38.7 ล้านบาท แบ่งเงินฝากธนาคาร 10.2 ล้านบาท เงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ นสศ. จำกัด 13.3 ล้านบาท เงินลงทุน 11.2 ล้านบาท บ้าน 1 หลัง 4 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน ขณะเดียวกัน พล.อ.สนธิได้แจ้งทรัพย์สินของคู่สมรส 2 คน

คนแรก นางสุกัลยา บุญยรัตกลิน มีทรัพย์สิน 14.1 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินฝากธนาคาร 3.9 ล้านบาท ที่ดิน 1 แปลง 1.3 ล้านบาท บ้านอาศัย 2 หลัง 4.2 ล้านบาท รถยนต์ 2 คัน 4.1 ล้านบาท

คนที่ 2 นางปิยะดา บุญยรัตกลิน มีทรัพย์สิน 42 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินฝากธนาคาร 738,784 บาท เงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ 6.4 ล้านบาท ที่ดิน 16 แปลง 16.6 ล้านบาท (ป.ป.ช.ตรวจพบ 17 แปลง) บ้าน 2 หลัง 11.7 ล้านบาท ตึกแถว 1 หลัง 2 ล้านบาท รถยนต์ 5 คัน 3.7 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น 815,000 บาท และทรัพย์สินของนางสาวศศิภา บุญยรัตกลิน บุตรสาวยังไม่บรรลุนิติภาวะอีก 323,702 บาท

รวมทรัพย์สิน 3 คนผัวเมีย 94.9 ล้านบาท และถ้ารวมทรัพย์สินของนางสาวศศิภาด้วย เท่ากับ 95.2 ล้านบาท

ทรัพย์สินก้อนดังกล่าวถูกตั้งคำถามจากคนบางกลุ่มว่าอดีตผู้บัญชาการทหารบก รับราชการมาตลอดชีวิต ขณะที่ภริยา 2 คนไม่ได้ประกอบธุรกิจอย่างชัดเจน ทำไมถึงมีทรัพย์สินเกือบ 100 ล้านบาท ? ไม่รวมทรัพย์สินของเครือญาติและบุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้ว

กรณีดังกล่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ตรวจพบข้อมูลดังนี้ พล.อ.สนธิแจ้ง ป.ป.ช.ว่ามีบุตร 6 คน คือ พ.ต.ต.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน ร้อยโท สุธาวิทย์ บุญยรัตกลิน เรือโทนิธิ บุญยรัตกลิน นายนิรินทร์ บุญยรัตกลิน นายเอกรินทร์ บุญยรัตกลิน และนางสาวศศิภา บุญยรัตกลิน

และมีน้องสาว 4 คน คนแรกชื่อ นางพรทิพย์ ตุลยสวัสดิ์ อายุ 51 ปี คนที่สองชื่อนางขนิษฐา บุญยรัตกลิน อายุ 49 ปี คนที่สาม นางวิจิตรา บุญยรัตกลิน อายุ 43 ปี และ คนที่สี่ นางยุพาวดี บุญยรัตกลิน อายุ 40 ปี และน้องชาย 1 คน ชื่อ นายสาธิต บุญยรัตกลิน อายุ 45 ปี

จากการตรวจสอบพบว่า ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด มี 2 คนที่ทำธุรกิจ คือ นางขนิษฐา กับ นางวิจิตรา บุญยรัตกลิน นางขนิษฐาเป็นเจ้าของบริษัท เอกาย ไซน์ เฟอร์นิเจอร์ อินดัสเตรียล จำกัด ทำธุรกิจรับออกแบบและตกแต่งภายใน ก่อตั้งวันที่ 22 มกราคม 2547 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 125 ซอยประชาอุทิศ 54 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 10 เมษายน 2550 นางขนิษฐา 1,100 หุ้น นายนพดล ยุทธมนตรี นางยุพดี เต นายนพดล บุญยรัตกลิน นายมาโนช์ ผลทวี นายศิริพงศ์ เย็นอังกูร และนางสุจิรา โฮวเต็ว คนละ 150 หุ้น หุ้นละ 2,000 บาท

ผลประกอบการปี 2548 มีรายได้ 18,505,003 บาท กำไรสุทธิ 1,630,791 บาท มีสินทรัพย์ 8,944,242 บาท ก่อนหน้านี้ปลายปี 2538 นางขนิษฐาร่วมกับนายมาโนชญ์ ผลทวี ก่อตั้ง หจก. บาย อัส จดทะเบียนวันที่ 8 ธันวาคม 2536 ทุน 1 ล้านบาท รับจ้างออกแบบตกแต่งภายใน-นอกอาคาร ที่ตั้ง 729/37 ซอยวัดจันทร์ใน ถนนรัชดาภิเษก แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ปี 2539 มีรายได้ 7,601,660 บาท กำไรสุทธิ 110,696 บาท ปี 2540 มีรายได้ 959,881 บาท กำไรสุทธิ 48,510 บาท มีสินทรัพย์ 1,504,963 บาท

หลังจากนั้นมิได้ทำกิจการและไม่ได้ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ต่อมาวันที่ 1 เมษายน 2539 นางขนิษฐาร่วมกับนายมาโนชญ์คนเดิมก่อตั้ง บริษัท บายอัส ไซเน็ท จำกัด ทุน 1 ล้านบาท จำหน่ายงานวัสดุตกแต่งและงานป้าย (ขายส่ง) ที่ตั้งเลขที่เดียวกัน ผลประกอบการ ปี 2540 มีรายได้ 4,648,290 บาท กำไรสุทธิ 170,682 บาท ปี 2541 มีรายได้ 2,728,798 บาท ขาดทุนสุทธิ 176,672 บาท และถูกกรมพัฒนาธุรกิจการค้าขีดชื่อเป็นบริษัทร้างในปี 2548

ขณะที่ นางวิจิตรา บุญยรัตกลิน เป็นเจ้าของบริษัท รัตกลิน จำกัด ก่อตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2548 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจบริการด้านธุรกิจอื่นๆ ที่ตั้งเลขที่ 122/52 หมู่ที่ 2 ซอยประชาอุทิศ 91/2 ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ โดยนางวิจิตราถือหุ้น 6,500 หุ้น นางสาวพิมพ์ชนก จั่นเพชร 3,000 หุ้น นางพรทิพย์ ตุลยสวัสดิ์ นายจิระศักดิ์ เทพบรรยง นายณัฐ บุญยรัตกลิน นางอัญชลี พงษ์พิชัย และนายองอาจ บุญยรัตกลิน คนละ 100 หุ้น รวม 10,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท ผลประกอบการปี 2548 มีรายได้ 5,221,552 บาท กำไรสุทธิ 364,529 บาท มีสินทรัพย์ 2,322,975 บาท ไม่มีธุรกิจอื่น

อย่างไรก็ตาม ถ้ารวมรายได้ของบริษัท เอกาย ไซน์ฯ และบริษัทรัตกลิน ในรอบปี 2548 ถึง 23.7 ล้านบาท กำไรสุทธิประมาณ 2 ล้านบาท ถือว่าไม่ธรรมดาอยู่เหมือนกัน

กล่าวสำหรับนางขนิษฐาน้องสาวคนที่ 2 ถ้ายังจำกันได้เคยตกเป็นข่าวพาดหัวทางหน้าหนังสือพิมพ์รายวัน เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2550 ว่า ถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากร กัมพูชาจับกุมในข้อหาลักลอบนำรถยนต์วีโก้แค็บ สีน้ำเงิน ทะเบียน ตศ 3121 กรุงเทพฯ พวงมาลัยขวา วิ่งข้ามฝั่งจากอรัญประเทศมุ่งหน้าสู่กรุงพนมเปญประเทศกัมพูชา

ในครั้งนั้นมีข่าวว่านางขนิษฐามีอาชีพสถาปนิก ทำธุรกิจบริษัทรับเหมาตกแต่ง เดินทางไปกัมพูชาเพราะเข้าไปรับเหมาตกแต่งร้านให้แก่บริษัทเดอะพิซซ่าซึ่งเข้าไปเปิดสาขาที่กรุงพนมเปญ โดยนางขนิษฐาเป็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวเข้าไปด้วยตัวเอง ทำเรื่องขออนุญาตผ่านด่านศุลกากรอรัญประเทศ และทำใบขนย้ายสินค้าฝั่งไทย แต่ไม่ได้ขออนุญาตนำรถยนต์จากฝั่งไทยเข้าไปใช้ในกัมพูชา ทำให้ถูกจับ

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามข้อเท็จจริงจากพล.อ.สนธิซึ่งขณะนั้นปฏิบัติภารกิจที่ประเทศสิงคโปร์ เจ้าตัวยอมรับว่ามีน้องสาวชื่อ "ขนิษฐา" จริง แต่อ้างว่ายังไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็นคนคนเดียวกับคนที่ถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรกัมพูชาจับกุมตัวไว้หรือไม่ และไม่ได้บอกรายละเอียดธุรกิจของน้องสาวตนเองแต่อย่างใด

ข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าตระกูลบุญยรัตกลินไม่ใช่แค่รับราชการอย่างเดียว หากยังมีธุรกิจอยู่ในเครือข่ายด้วยเหมือนกัน !