คอลัมน์ เหล็กใน
เริ่มสะท้อนให้เห็นแล้วว่าฝีมือการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นอย่างไร
โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจที่ติดลบแล้วติดลบเล่า
แม้ทางหนึ่งจะเข้าใจถึงปัญหาระดับโลก และความวุ่นวายทางการเมือง
ในขณะที่ประเทศอื่นๆส่วนใหญ่เริ่มมีอาการทรง และผงกหัวขึ้นบ้าง หรือสามารถประคองตัวได้โดยไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนมากนัก
แต่รัฐบาลไทยกำลังมีแนวคิด "ถอนขนห่าน" อีกระลอก เพื่อหาเงินมาโปะเงินภาษีที่ได้ไม่เข้าเป้าไปหลายแสนล้านบาท
ก่อนหน้านี้ก็ไล่ทุบเศรษฐกิจไทยทางอ้อมด้วยการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเกือบเต็มเพ ดาน ให้คนไทยใช้น้ำมันแพงเล่นเสียอย่างนั้น
แถมตอนนี้ราคาน้ำมันโลกเริ่มทยอยปรับขึ้นเรื่อยๆ แม้จะไม่พรวดพราดเหมือนปีที่แล้ว แต่เมื่อบวกกับอัตราภาษีเข้าไปก็ถือว่าอยู่ในระดับสูง
แต่อย่างว่ารัฐบาลกำลังหน้ามืดวิ่งหาเงินกันขาขวิด พอเห็นว่าน้ำมันราคาถูกก็เพิ่มภาษีมันเข้าไป
ทั้งที่น้ำมันถือว่าเป็นต้นทุนสำคัญของแทบทุกธุรกิจ
ขณะที่เศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ คนใช้จ่ายน้อยลง แต่สินค้าและบริการต้องปรับราคาขึ้นเพราะเจอต้นทุนน้ำมันเข้าไป มันจึงยิ่งไปกันใหญ่
ล่าสุดเอาอีกแล้วกระทรวงการคลัง มีแนวคิดจะปรับเพิ่มภาษีต่างๆให้มากขึ้น หลังยอดเก็บภาษีทุกชนิดลดต่ำลงจนแทบจะปิดหีบงบประมาณไม่ได้
ถึงจะเข้าใจในสถานการณ์ แต่ทางหนึ่งมันก็เป็นการสะท้อนฝีมือการทำงานของรัฐบาล และผู้บริหารชุดนี้ได้ว่ามี "กึ๋น" มากแค่ไหน
การตัดสินใจแก้ปัญหาเงินขาดมือด้วยการขึ้นภาษี ควรจะเป็นมาตรการสุดท้ายที่รัฐจะคิดในสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้
เพราะเหมือนเป็นการซ้ำเติมชาวบ้านมากขึ้น
คล้ายกับก่อนหน้านี้ที่มีแนวคิดสุดพิลึก ให้เอกชนที่ขาดสภาพคล่องกู้เงินมาจ่ายภาษีให้รัฐ
บอกตรงๆว่า เห็นแก่ได้อย่างที่สุด
แทนที่จะช่วยเอกชนกู้เงินเสริมสภาพคล่อง หรือยืดลมหายใจตัวเองเพื่อให้ปลดคนงานน้อยลง กลับให้ไปกู้เงินเพื่อมาจ่ายภาษีให้รัฐบาลแทน
เห็นแต่ละมาตรการของรัฐที่ออกมา แทนที่จะช่วยคนไทย หรือประคองธุรกิจให้พออยู่รอดได้ กลับเหมือนกระทืบซ้ำให้จมดินมากกว่า
การแก้ปัญหาด้วยการขึ้นภาษี เป็นอะไรที่สิ้นคิดได้ใจมากๆ
ไม่น่าเชื่อว่าการบริหารประเทศไทยนี่มันง่ายจริงๆ เพราะคิดอะไรไม่ออกก็ขึ้นภาษี นึกวิธีหาเงินไม่ได้ก็ขึ้นภาษี
คิดง่ายดีเนอะ
(ที่มา ข่าวสด , 7 พ.ค. 2552)