Sunday, May 10, 2009

หนุ่มวิศวะถ่อย คลั่งม็อบเหลืองไล่ฟันแดง


หนุ่มวิศวะถ่อย คลั่งม็อบเหลืองไล่ฟันแดง
จิกหัว-เชือดคอแม่ค้าสาว ดับคาชามก๋วยเตี๋ยวอีกรายโดนแทงเจ็บมือดาบเจอยำน่วม!

หนุ่มวิศวะเพี้ยนสติแตก คลั่งกลุ่มคนเสื้อเหลือง เห็นข่าวกลุ่มคนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมใหญ่ เลยคว้ามีดดาบซามูไร ฟันสาวโทรทัศน์ขาดกระจุยจากนั้นวิ่งออกจากบ้าน ไปเจอชายนั่งคุยกับเพื่อน เข้าไปถาม “คนแถวนี้เป็นพวกเสื้อแดงหรือเปล่า” พอเจอย้อน “ถ้าเป็นจะทำอะไร” หนุ่มเพี้ยนเลยแทงอกบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะวิ่งข้ามถนนไปหาแม่ค้าขายโจ๊กกับข้าวมันไก่ ที่ใส่เสื้อสีแดงกำลังนั่งโซ้ยก๋วยเตี๋ยวอยู่ริมถนน ร้องถาม “มึJพวกเสื้อแดงเหรอ นายสนธิลูกพี่กูถูกยิงเพราะ พวกมึJใช่หรือไม่” สาวชะตาขาดไม่ตอบ และไม่สนใจ เลยโดนหนุ่มแฟนพันธุ์แท้คนเสื้อเหลือง จ้วงแทงหน้าอก 2 ทีซ้อน ก่อนจิกผมปาดคอซ้ำตายสยอง แถมตะโกนเอะอะโวยวาย ใครห้ามเข้าใกล้โดยเฉพาะพวกคนเสื้อแดง จะไม่ไว้ชีวิตอย่างเด็ดขาด สุดท้ายโปลิศบุกเข้าชาร์จรวบตัวไว้ได้ แต่เจอญาติคนตายกับคนเจ็บรุมสหบาทาจนอ่วม

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 9 พ.ค. พ.ต.ท.สุรัตน์ น้อยจันทึก สวส.สภ.สีคิ้ว จ.นคร ราชสีมา รับแจ้งมีชายคลุ้มคลั่งใช้มีดดาบซามูไร ไล่ฟันคนเดินผ่านไปมาบนถนน ใกล้ร้านทำฟันปลอม “ตราดาว” เลขที่ 287 ริมถนนชุมค้า หมู่ 9 เขตเทศบาลเมืองสีคิ้ว รุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประสิทธิ์ เปรมกมล รอง ผกก. สส. พ.ต.ท.เพิ่มสุข ศิริพละ รอง ผกก. (ป.) พร้อมกำลังจำนวนหนึ่ง และหน่วยกู้ภัยพรหมธรรมสีคิ้ว ที่เกิดเหตุบนทางเท้าใต้โต๊ะก๋วยเตี๋ยวบะหมี่เกี๊ยว ฝั่งถนนตรงข้ามร้านทำฟันปลอม พบศพนางพรศิริ โอษฐ์จันทร์ศรี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 297/1 หมู่ 9 ต.สีคิ้ว

สภาพศพนั่งคุกเข่า หน้าอกถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมทะลุหลัง 2 แผล ที่ลำคอยังโดนปาดเป็นแผลเหวอะหวะ นั่งเสียชีวิตสยองเลือดไหลนองเต็มพื้น นอกจากนี้ยังมีคนเจ็บอีก 1 ราย นำส่ง รพ.สีคิ้ว ไปก่อนหน้านี้แล้วทราบชื่อภายหลังนายวุฒิ ด่านกุล อายุ 25 ปี อยู่บ้าน เลขที่ 360/3 หมู่ 7 ต.สีคิ้ว ถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมที่หน้าอก แขนขวาโดนฟันเป็นแผลฉกรรจ์บาดเจ็บสาหัส ที่ริมถนนพบรถปิกอัพโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ผท 6105 นครราชสีมา ของนายอนันต์ ตรีรัตน์ฤดี อายุ 40 ปี เจ้าของร้านทำฟันปลอมตราดาว ตัวถังถูกฟันเสียหาย และกระจกหน้าโดนฟันแตกละเอียด และรถจยย.สายตรวจ 191 ของ สภ.สีคิ้ว ก็ถูกฟันเสียหายไปด้วยเช่นกันอีก 1 คัน

ในที่เกิดเหตุพบคนร้าย ทราบชื่อต่อมานายประทีป ตรีรัตน์ฤดี อายุ 33 ปี น้องชายนายอนันต์ และเป็นช่างทำฟันปลอมอยู่ในร้านของพี่ชาย ยืนถือมีดดาบซามูไรเปื้อนเลือด กวัดแกว่งไปมาอย่างน่าหวาดเสียว ปากก็ร้องตะโกนเอะอะโวยวายอย่างคนบ้าคลั่ง ทำให้เหล่าไทยมุงและตำรวจไม่กล้าเข้าใกล้ เนื่องจากนายประทีปขู่ไว้ว่า ห้ามใครเข้ามา มิเช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย โดยเฉพาะพวกคนเสื้อแดง

เจ้าหน้าที่เลยไปเชิญตัวนางสุพิศ ตรี รัตน์ฤดี อายุ 89 ปี มารดาของนายประทีป มาพูดจาเกลี้ยกล่อมให้นายประทีปยอมวางมีดดาบลง แต่นายประทีปไม่ยอม หลังจากผ่านพ้นไปนานกว่า 2 ชั่วโมง ขณะที่นายประทีปเผลอ ตำรวจเลยบุกเข้าชาร์จ พร้อมกับปล้ำแย่งมีดดาบเอาไว้ได้ ขณะที่ตำรวจกำลังจะนำตัวไปสอบสวน ปรากฏว่าญาติของผู้ตายและคนเจ็บที่มายืนดู พากันกรูเข้ารุมประชาทัณฑ์ จนนายประทีปสะบักสะบอม จึงต้องรีบนำตัวนายประทีปส่ง รพ.สีคิ้ว พร้อมกับอายัดตัวไว้ดำเนินคดี

จากการสอบสวนนายอนันต์ เจ้าของร้านทำฟันปลอม และเป็นพี่ชายของนายประทีปให้การว่า น้องชายเรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี แต่เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา น้องชายป่วยเป็นโรคประสาทอ่อน ๆ ต้องรับยามากินตลอด แต่บังเอิญเมื่อช่วง 2 วันก่อน ยาที่หมอให้มาเกิดหมด และยังไม่ได้ไปเอาที่ รพ. ขณะที่นายประทีปกำลังดูทีวี ซึ่งกำลังเสนอข่าวเกี่ยวกับกลุ่มคนเสื้อแดง จะนัดชุมนุมใหญ่ ปรากฏว่าน้องชายซึ่งเป็นคนชอบเรื่องการเมือง และเป็นแฟนพันธุ์แท้กลุ่มคนเสื้อเหลือง โดยในช่วงที่คนเสื้อเหลืองรวมตัวกันประท้วงที่ จ.นครราชสีมา หากน้องชายมีเวลาว่างเมื่อไร จะต้องไปร่วมชุมนุมกับคนเสื้อเหลืองเป็นประจำ

พอนายประทีปเห็นข่าวกลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ เลยเกิดความเครียด ประกอบกับอาการกำเริบเพราะไม่ได้ทานยา เลยคว้ามีดดาบซามูไรฟันสายเคเบิลทีวีจนขาดกระจุย จากนั้นเดินออกจากบ้าน และไปเจอนายวุฒินั่งคุยกับเพื่อนที่ริมถนน จึงเข้าไปถามว่า “คนแถวนี้เป็นพวกเสื้อแดงหรือเปล่าวะ” นายวุฒิย้อนถามกลับ ว่า “ถ้าผมเป็นแล้วคุณจะทำอะไร” ขาดคำน้องชายเลยใช้มีดดาบในมือ แทงหน้าอกนายวุฒิไป 1 ทีจนล้มคว่ำลงกับพื้น

นายอนันต์ให้การต่ออีกว่า ระหว่างนั้นนายประทีปหันไปเห็นนางพรศิริผู้ตาย ใส่เสื้อสีแดงนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ฝั่งตรงข้าม เลยวิ่งเข้าไปหาพร้อมกับร้องถามว่า “มึJพวกเสื้อแดงเหรอ นายสนธิลูกพี่กูถูกยิงเพราะพวกมึJใช่หรือไม่” แต่นางพรศิริไม่ตอบและไม่ได้สนใจ นายประทีปเลยเดินเข้าไปหา พร้อมกับจ้วงแทงที่หน้าอกนางพรศิริ 2 ทีซ้อน จนนางพรศิริทรุดคุกเข่ากับพื้น แต่นายประทีปยังไม่หายบ้าคลั่ง ใช้มือจิกผมนางพรศิริเงยหน้าขึ้นมา ก่อนใช้มีดดาบปาดคอซ้ำ จนเลือดพุ่งกระฉูดขาดใจตายคาที่ ท่ามกลางความตกตะลึงของชาวบ้าน และลูกค้าที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยว พอตำรวจขี่รถจยย.สายตรวจมาระงับเหตุ นายประทีปยังใช้มีดดาบฟันจนรถเสียหาย แถมรถปิกอัพของตนที่จอดอยู่ริมถนน ก็ยังโดนนายประทีปฟันเสียหายไปด้วยเช่นกัน

ขณะที่นายเกรียงศักดิ์ พรจันทึก อายุ 31 ปี สามีของนางพรศิริผู้เสียชีวิตระบุว่า ตนกับภรรยามีลูกสาวด้วยกัน 2 คน โดยคนโตเรียนอยู่ชั้น ป.6 คนเล็กเรียนอนุบาล 2 ตนกับภรรยามีอาชีพขายโจ๊กกับข้าวมันไก่ อยู่ในตลาดเทศบาลเมืองสีคิ้ว ก่อนเกิดเหตุตนกับผู้ตาย กำลังช่วยกันตั้งโต๊ะเพื่อเตรียมเปิดร้านในตอนเช้า ระหว่างนั้นภรรยาบ่นว่าหิว เลยขี่รถ จยย.ไปนั่งกินก๋วย เตี๋ยว สุดท้ายมาโดนฆ่าตาย ทั้งที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วย และภรรยาตนไม่ได้เป็นคนเสื้อแดงหรือเสื้อเหลือง “ผมกับภรรยาเป็นคนทำมาหากิน ไม่สนใจเรื่องการเมือง อีกทั้งยังไม่เคยรู้จักนายประทีปด้วยซ้ำ แค่เมียผมใส่เสื้อสีแดงมันผิดหรือไง ทำไมต้องมาเข่นฆ่ากันถึงเพียงนี้” นายเกรียงศักดิ์เผยทั้งน้ำตา





www.dailynews.co.th