โดยเหลี่ยมของคนเป็นพ่อค้า แม่ค้า ที่ต้องบอกราคาสูงไว้ก่อน เผื่อลูกค้าต่อรอง ดึงไปสู่ จุดที่ได้กำไร หรืออย่างน้อยก็ต้องคุ้มทุน
ในอารมณ์ที่ไม่ต่างจากวิสัยของนักการเมือง ที่ต้องตั้งเงื่อนไขให้สูงสุดกู่เข้าไว้ เผื่อรายการชักเย่อให้ไปสู่จุดที่พบกันครึ่งทาง
ไม่มีใครยอมขาดทุนฝ่ายเดียว โดยเฉพาะจอมเขี้ยวยี่ห้อ "ประชาธิปัตย์"
ล่าสุดกับมุก "ขู่ยุบสภา" ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลกดดันมากๆ
" ข่าวปล่อย" ออกมาจากแกนนำผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ตีปี๊บโหมโรงคิวที่คนของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนใหญ่เห็นตรงกันกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน จอมเก๋า ที่ไม่เอาด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 237 ว่าด้วยปมยุบพรรค และการนิรโทษกรรม
พูดกันขนาดว่า อึดอัดกับการถูกพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย และบรรดาแกนนำในเครือข่ายบ้านเลขที่ 111 บวก 109 รุมไล่บี้
และก็เป็นนายชุมพล กาญจนะ ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะมือขวาคนสำคัญของ "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ผู้จัดการรัฐบาล ออกมาส่งซิกเป็นนัย พรรคต้องยึดมติเสียงส่วนใหญ่
และจำเป็นต้องฟังเสียงคัดค้านแก้รัฐธรรมนูญ และคัดค้านการนิรโทษกรรมของม็อบพันธมิตรฯด้วย
ลูกทีมประชาธิปัตย์เล่นบทเฮี้ยว หันมาเสียงแข็งใส่เพื่อนพรรคร่วมรัฐบาล
แบะท่ารับมุกกับม็อบพันธมิตรฯ
แต่ อีกทางหนึ่ง วันเดียวกันเลย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาสอนเชิงม็อบพันธมิตรฯที่ออกมาขู่แสดงพลังเคลื่อนไหวขวางลำไม่ให้รื้อ รัฐธรรมนูญ เปิดทางนิรโทษกรรม
"การที่จะออกมาเคลื่อนไหวอะไร ขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในกรอบของกฎหมาย และอยากเชิญชวนให้มาใช้เวทีของสภาฯที่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาให้มากที่ สุด
ต้องรับฟังและแลกเปลี่ยนกัน ไม่ใช่เรื่องที่จะไปตัดความเห็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่สำคัญต้องฟังความเห็นของคนอื่นด้วย"
"อภิสิทธิ์" ดึงจังหวะกลางๆ ยังพร้อมเปิดทางแก้รัฐธรรมนูญ นิรโทษกรรม
เห็นชัดๆ ประชาธิปัตย์แยกบทกันเล่น
ภาย ใต้เงื่อนไขที่ "อภิสิทธิ์เทพเทือก" ต้องรักษา "สัญญาลูกผู้ชาย" กับนักเลือกตั้งอาชีพในพรรคร่วมรัฐบาลที่พลิกขั้วมาหนุนส่งให้ "อภิสิทธิ์" ขึ้นสู่ เก้าอี้นายกรัฐมนตรี แลกกับการเปิดทางนิรโทษกรรมพวกโดนลูกหลงจากเกมล้มโต๊ะ "ทักษิณ"
ถ้าเบี้ยวก็ "ล่ม" แน่
ยากจะยื้อยาว 6-8 เดือน อย่างที่นายกฯอภิสิทธิ์ขอต่อชั่วโมงไว้
ใน ทางตรงกันข้ามก็ยากจะประเมินได้ กับอัตราเสี่ยงในเกมการแข่งขันทางการเมือง ถ้าเปิดทางนิรโทษกรรมนักเลือกตั้งอาชีพออกจากกรงขัง สนามเลือกตั้งเปิดกว้าง
ประชาธิปัตย์มีหวังจองที่นั่งฝ่ายค้านดักดาน
นี่แหละที่ต้องคิดหนัก ยังไงก็ต้องกั๊กไม่ให้ขาดทุน
แต่จะเครียดถึงขั้นขู่งัดไม้ตายยุบสภามาเล่นกัน มันมุกตื้นไปหน่อย
เพราะ โดยเหตุความจำเป็นเฉพาะหน้า การที่รัฐบาลจะรีบเก็บฉากหนี ตามสถานการณ์ก็ไม่ได้มีอะไรฉุกเฉินซะเมื่อไหร่ โดยกระแสการเมืองข้างถนนพักรบ ม็อบเสื้อแดงก็ยังอุ่นเครื่องอยู่ในที่ตั้ง ม็อบเสื้อเหลือง ก็เช็กกระแสตั้งพรรคการเมืองใหม่ เปลี่ยนเป้าหมายไปเล่นในสภา หลังแกนนำใหญ่อย่างนายสนธิ ลิ้มทองกุล วางแผนบินไปพักฟื้นต่างประเทศ
หรือถ้าจะชิงจังหวะ ฉวยกระแสหนุนนำ เข้าทางนายกฯอภิสิทธิ์
โดย สภาพก็อย่างที่เป็นข่าวรายวัน วิกฤติเศรษฐกิจกำลังลูกผีลูกคน นายกฯต้องออกมาปฏิเสธข่าวรัฐถังแตก คลังต้องจ้องยืมเงินค่าเทอมของนักศึกษา ค่าธรรมเนียมศาล มาปะตูด
สัญญาณ อาการไม่สู้ดี
หรือในมุมที่ รัฐบาลต้องพร้อมสรรพทั้งในเรื่องของเสบียงกรัง การจัดวางกำลังพล โยกย้ายข้าราชการเป็นไม้เป็นมือ ครองความได้เปรียบในสนามเลือกตั้ง
ก็อย่างที่เห็นยามนี้ ทั้งเครือข่ายฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย เสบียงกรังในกระทรวงคมนาคม ทุกอย่างอยู่ในกำมือของค่ายภูมิใจไทย
ถ้า "อภิสิทธิ์" บ้าจี้ ยุบสภา
ลูกก็เข้าทาง "เนวิน ชิดชอบ" เท่านั้นเอง.
"ทีมข่าวการเมือง" รายงาน
http://www.thairath.co.th/content/pol/4046